
Uncategorized
โอ๋ ภัคจีรา อดีตคุณนายสะใภ้ห้างทอง
โอ๋ ภัคจีรา อดีตคุณนายสะใภ้ห้างทอง


เปิดชีวิต “โอ๋ ภัคจีรา” อดีตนางร้ายเบอร์ต้น อยู่ห้องเช่าหลังคารั่ว แต่สู้ชีวิต จนเป็นคุณนายสะใภ้ห้างทอง


อีกหนึ่งข่าวที่สร้างความตกใจให้กับหลายคน หลัง นักแสดงและพิธีกรสาว “โอ๋ ภัคจีรา” ได้ออกมาประกาศลดสถานะกับสามี “เฟี้ยต มธุกร” และก่อนหน้านี้เธอได้เปิดเผยเรื่องราวต่างๆ เล่าย้อนไปถึงชีวิตก่อนที่จะมีวันนี้ต้องผ่านมรสุมมากมายเลยทีเดียว


เธอได้เล่าว่า “ตอนเด็กก็มีชีวิตปกติเหมือนกับเด็กทั่วไป แค่อยู่มาวันหนึ่งธุรกิจโรงงานล้มละลาย แต่เราก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว จนพ่อมาบอกว่าบ้านนี้ต้องขาย เราทั้งหมดต้องหาที่อยู่ใหม่ จากที่เคยที่อยู่บ้านหลังใหญ่เนื้อที่เป็นไร่ ก็ต้องมาอยู่บ้านหลังที่เล็กลง ข้างล่างเป็นที่ไว้เครื่องจักร และข้างบนเป็นที่อาศัยนอนของครอบครัว”


“ตอนนั้นเราเองก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน แต่พ่อก็บอกว่าเราต้องอยู่ให้ได้ สิ่งที่เราเห็นในตอนนั้นคือพ่อจากที่เคยทำงาน ก็ตกงานไม่มีอาชีพ ในขณะที่แม่ก็เพิ่งคลอดน้องคนเล็กออกมา เหตุการณ์เหมือนในละคร ที่ของมีค่าที่สุดคือทีวีและตู้เย็น เวลาฝนตกน้ำก็รั่ว ทำให้เราคิดว่า เราต้องหาอะไรทำ เราจะต้องมีเงิน ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รู้จะทำอะไรด้วย เพราะอายุแค่ 15 ปีเอง“


“หลังจากวันนั้นก็ตัดสินใจไปอาศัยอยู่กับป้า แต่ป้าก็ไม่ได้จะมีเงินเยอะแยะ ก็เลยคิดทำงานพิเศษ จะไปเป็นพนักงานขายในห้าง แต่ไปเห็นว่าเขามีการประกวดมิสฟิวเจอร์โมเดลคอนเทสต์ เลยตัดสินใจไปประกวดซึ่งก็ชนะได้เงินหลักหมื่นและโทรศัพท์หนึ่งเครื่อง นั่นคือจุดเริ่มต้นในการประกวด”

“หลังจากที่ชนะมามันเหมือนกับเป็นดวง ซึ่ง พี่อุ๊บ วิริยะ แนะนำให้เราไปประกวดมิสมอเตอร์โชว์ เราก็ไปและก็ได้ตำแหน่ง ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนและทำให้ได้เป็นดาราจนถึงทุกวันนี้ ตอนที่เข้าวงการแรกๆ ก็ยังไม่ค่อยมีเงิน ทำให้ต้องนั่งรถเมล์ ต่อเรือ เพื่อไปถ่ายละคร”

“มีผลงานเรื่องแรกคือ ลูกผู้ชายหัวใจไม้ฉาก แต่หลังจากนั้นก็ผันตัวไปรับบทนางร้าย เพราะการเป็นนางเอกต้องเก็บตัวห้ามออกมาเจอผู้คน และยังต้องเรียนการแสดง แต่เธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้เพราะยังต้องเลี้ยงดูอีก 3 ชีวิตในครอบครัวดังนั้นเธอจึงหันมารับบทนางร้าย นางอิจฉา”

เธอได้บอกว่า ตั้งแต่นั้นเธอก็รับบทนางร้ายก็มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย บางช่วงมีงานละครออกอากาศทุกวัน และมดดำเล่าว่าสมัยก่อนเวลาโอ๋ไปถ่ายละคร มีหลายครั้งที่เธอต้องนั่งรอนักแสดงอื่นเป็นวันๆ แต่ก็ไม่ได้บ่นเพราะเธอมักบอกกับเขาเสมอว่า “ไม่เป็นอะไร เพราะทุกวันนั้นมันคือกำไรชีวิต สิ่งที่เธอเจอมาตั้งแต่สมัยเด็กมันลำบากกว่าในตอนนี้เสียอีก”

นอกจากนี้ สาวโอ๋ยังบอกอีกว่า เธอรู้สึกขอบคุณวงการบันเทิงมากๆ เพราะนอกจากจะมอบอาชีพและรายได้ให้กับครอบครัวของเธอแล้ว ก็ยังมอบประสบการณ์และบทเรียนต่างๆ ทั้งความคิดและการวางตัว จนทำให้เธอได้กลายเป็นเธออย่างในวันนี้

แต่ล่าสุดชีวิตรักก็ไม่สมหวังเมื่อจู่ๆโอ๋ออกมาประกาศกลางไอจีว่าได้ยุติบทบาทสามีภรรยากับพี่เฟี๊ยตแล้ว

