เรียกว่าเป็นนางร้ายที่อยู่ในความทรงจำของทุกคนเลยทีเดียว สำหรับ จอย จามจุรี เชิดโฉม อดีตนางร้ายเสียงแหลมในยุค 80 ที่ชีวิตของเธอเริ่มไปสู่วงการด้วยการถ่ายแบบ

โดยงานชิ้นแรกในอาชีพนักแสดงเป็น ครีมอาบน้ำจอนห์สัน ซึ่งมีภาพตีพิมพ์ในนิตยสารชั้นนำมากมาย และก็มีถ่ายแบบตามนิตยสารและก็ถ่ายแบบอย่างมาก

เธอไปสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัวจากการเข้าประกวดในเวทีนางสาวไทยในตอนปี พุทธศักราช 2529 ในเวลานั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 17 ปี ซึ่งได้รับการชักชวนและก็ช่วยเหลือของ เกศสยาม

และก็ในการเข้าประกวดในเวทีความสวยงามนั้น ทำให้ จอย ได้ก้าวสู่การเป็นนักแสดงอย่างเต็มตัว โดยเธอเริ่มงานแสดงในวงการภาพยนตร์ กับเรื่อง อีกสิบวันโลกจะแตก

แล้วจึงมีผลงานหนัง บ๊ายบายไทยแลนด์ ก่อนที่จะเบนเข็มสู่การแสดงละคร ซึ่งโด่งดังดังไปทั่วประเทศกับบทนางร้ายผู้น่ารักจากเรื่อง ปัญญาชนก้นครัว

นอกจากนี้ยังมีละครอีกหลายเรื่องที่เธอฝากฝีมือไว้มากมาย เช่น บัวแล้งน้ำ ดาวแต้มดิน เมืองโพล้เพล้ พรพรหมอลเวง พ่อปลาไหล แม่พังพอน

จามจุรี เชิดโฉม ส่งผลงานทางละครตามมาอีกพักใหญ่ น่าเสียดายนางร้ายผู้น่ารักคนนี้ภายหลังขึ้นแท่นเป็นนางร้ายเบอร์หนึ่งแค่เพียงไม่กี่ปี

เธอก็ได้ตัดสินใจสมรสแล้วก็ตั้งครรภ์มีครอบครัว โดยได้ทิ้งทวนตำนานความเป็นนางร้ายเอาไว้กับผลงานละครเรื่อง ดาวแต้มดิน ในปี พุทธศักราช 2538

ก่อนออกมาจากวงการโดยไม่รับงานแสดงเรื่องใดๆอีก เนื่องจากว่าต้องการดูแลครอบครัวอย่างเต็มที่ แต่ว่าใช่ว่าเธอจะไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเลยนับจากนั้น

คุณจอยเคยออกรายการ บอกเล่าชีวิตความเป็นมาของตน ทั้งยังยังเคยเป็นนักแสดงรับเชิญ ในละคร นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว

หลังละครจบเมื่อปี พุทธศักราช 2538 เพื่อทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับครอบครัว วันนี้เธอหันหลังให้กับวงการบันเทิงด้วยการไปรับบทบาทในชีวิตจริงเป็นคุณแม่ลูก 2

ซึ่งปัจจุบันนี้ลูกสาว และก็ ลูกชาย ต่างเรียนจบปริญญาตรีกันแล้วทั้งสอง และก็เมื่อเร็วๆนี้เอง สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ นักแสดงร่วมรุ่นได้ลงรูปที่เธอนัดหมายทานข้าวกับเพื่อนนักแสดงรุ่นเดียวกัน

หนึ่งในนั้นได้มี จามจุรี เชิดโฉม คนนี้ร่วมอยู่ด้วย ถือว่าเธอยังคงน่ารักสดใสสมวัยเฉกเช่นกับที่เธอเคยเขย่าหัวใจชายหนุ่ม

หรือแม้แต่จนกระทั่งหญิงสาวร่วมกันเองหากแม้อยู่ในคราบนางร้ายในบทละคร แต่ถ้าว่าชีวิตจริงเธอก็เป็นแค่เพียงหญิงสาวน่ารักธรรมดาคนนึงเพียงเท่านั้น

ซึ่งนับจากที่ จามจุรี เชิดโฉม หันหลังให้วงการไปนั้น ก็ไม่ค่อยมีดอกาสได้มองเห็น จามจุรี เชิดโฉม กลับมาส่งผลงานให้เห็นมากนัก แล้วก็หากแม้กาลเวลาจะผ่านไปหลายสิบปี เธอก็ยังคงสวยไม่สร่างเลยจริงๆ