เป็นอีกหนึ่งอดีตนางเอกชื่อดัง “แหม่ม อลิษา” เปิดเผยชีวิตสุดพลิกผัน จากนางเอกแถวหน้า สู่แม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง อีกทั้งเธอยังเคยล้มละลายเป็นหนี้ 20 ล้านบาท

พี่แหม่มเป็นนางเอกยุค 90’s ที่เป็นลูกครึ่งคนแรกๆเลย? แหม่ม : “ใช่ ลูกครึ่งคนแรกๆเลย ตอนนั้นเข้าวงการ ด้วยการสมัครมากับพี่จิ๋ม มยุรฉัตร คือประกวดนางงามมาแล้วตัน แล้วความคิดของเด็กคนนึงคือฉันอยากขึ้นไปอยู่บนจอ

อยากให้คนดูฉัน แล้วไปเจอข้อความเขารับสมัครพอดี ก็เลยเขียนมาง่ายๆสั้นๆแล้วพี่จิ๋มก็มีจดหมายตอบกลับให้มาหาที่ช่อง 3 หนองแขม ส่วนใหญ่ได้ที่ 1 ไม่ค่อยพลาด

มิสเวิลด์ไปตอนใกล้จะเลิกแล้ว ใกล้ที่จะแขวนรองเท้าส้นสูงแล้ว ปีนั้นไม่มีการจัดประกวดนางสาวไทยไม่มีอะไร เขาจะสุ่มจากสาวงามที่ดังๆของแต่ละท้องถิ่น ก็ได้เข้ามาเป็น 1 ใน 3 คน ก็ได้ไปในส่วนของมิสเวิลด์ และก็ท่านต่อๆไปก็ไปคนละเวที มันเป็นความมั่นใจของเด็กคนนึง ที่แบบความใฝ่ฝัน ความทะเยอทะยาน” ตอนที่พี่ดังสุดขีด แต่ว่าอยู่ๆพี่ก็หายเลยเหมือนกัน? แหม่ม : “ใช่ๆมันเป็นเหมือนช่วงรอยต่อ เราพลิกมารับบทแม่ ไม่ได้เกิดอะไรเลย เพียงแต่ว่าเราเร็วไปกับการที่จะมาเล่นบทแม่ แต่ว่าบทแม่ที่รับเนี่ย คุณแม่เพื่อนรัก ของกันตนาในตอนนั้น มันเป็นละคร 100-200 ตอน แล้วไม่ใช่คุณแม่แก่ ไม่ได้มีลูก แต่มีเด็กที่เราต้องอุปการะ ก็เลยเรียกแม่ ตอนรับบทแม่ก็อายุประมาณ 30 กว่าแล้ว”

พี่แหม่มมีหนี้สิน 20 ล้าน? แหม่ม : “อันนั้นเป็นตอนตั้งแต่ฟองสบู่แตก แบงก์ยึดบ้าน ยึดอาคารพาณิชย์ เนื่องจากเราทำธุรกิจกิ๊ฟช้อป เราก็จะต้องยอมทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเพื่อปลดหนี้สิน แต่ว่ากว่ามันจะปลดได้มันทบไปเรื่อยๆจนเรามีความรู้สึกว่ามันสิ้นหวัง มีสาเหตุจากเวลาเราทำกิ๊ฟช้อป มันจะมีบางตัวที่ตีกลับ ล็อตนึงตีกลับ 5-6 แสนก็มี คือไม่ผ่านเลย เพราะว่าบางตัวเราไปจีน โคมไฟ หมอน รองเท้า กระเป๋า จากอุตสาหกรรม โรงงานเล็กๆย่อมๆมันเยอะ แต่ว่าวันนึงมันล้มขึ้นมามันเยอะมาก” เห็นว่าตอนนั้นถึงขั้นคิดว่าไม่อยากอยู่แล้ว? แหม่ม : “ใช่ๆเพราะมีความรู้สึกว่าถ้าเกิดตๅยแล้วคือจบ แต่ว่ามันก็มีประเด็นเล็กๆขึ้นมาว่า ไม่จบนะ หนี้สินผู้สืบทอดเหมือนว่าพ่อ แม่ ก็ต้องรับผิดชอบ ว้าย…ไม่เกี่ยว ก็เลยไม่ ก็อยู่ต่อ ลองอดทนอีกสักเฮือกนึง อยู่มาจนถึง ณ ปัจจุบันนี้ไม่รู้กี่เฮือกแล้ว” / ทุกวันนี้หนี้ 20 ล้านหมดยัง? แหม่ม : “หมดแล้ว คือไม่ว่าอะไรคือยอมที่จะเหลือแต่ตัว บ้านไม่มีอยู่ไม่เป็นไร แต่ว่าให้หนี้มันหมด ทรัพย์สินทั้งหมดขายทอดตลาดแล้วก็ชดใช้ไป ตอนนี้มีคอนโดเล็กๆที่เมืองทอง อยู่กับลูกสาว 4 ขา ซึ่งคุณหมอแนะนำให้เลี้ยง เราซึมเศร้า เราป่วย เขาคือยาขนานเอก มันมองไม่เห็นทางว่าจะเอาตรงไหนไปให้เขา แต่ว่ามันมีทรัพย์สินตัวบ้าน ตัวอาคารพาณิชย์ รถยนต์เบนซ์ อะไรก็ได้ที่มีพูดว่าคุณก็เอาไปเลย แต่ลบศูนย์ให้เรา ก็รอใช้เวลา

วันที่ไปเซ็นปลดตัวเองออกมาเนี่ยโล่ง ร้องไห้ วันนั้นที่แบงก์โทรมาแจ้งอยู่กับคุณแม่ แล้วจอดกลางไฟแดงเลย เขาบอกคุณมาเซ็นปลดด้วยนะทุกอย่างจบแล้ว ร้องไห้เลย คือจบ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปสร้างเอาใหม่” แล้วอะไรที่เป็นจุดเริ่มต้นให้พี่แหม่มมาขๅยอาหารตามสั่ง? แหม่ม : “ด้วยงานที่น้อยลงจากสภาพร่างกายเรา แล้วพี่มีความรู้สึกว่าเราต้องช่วยตัวเองก่อน ก่อนจะไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ค้าขายมันเป็นสายเลือดเรา เราก็เห็นว่าเราชอบอะไร เราทำอาหารได้ใช่ไหม ก็เริ่มขายจากแก๊สปิกนิคตัวเดียว ขายข้าวไข่เจียว ขายสับปะรดภูแลหน้าตึกตัวเอง แรกๆถามว่าอายไหมอาย เพราะว่ามันจะมีคำถามที่เราไม่รู้ว่าเขาตั้งใจถามหรือตั้งใจประจาน แบบไม่มีงานเหรอ ถึงมาขายสินค้าก็ร้องไห้นะ แล้วบอกเราต้องสู้ ดีกว่าเราไปขอเงิน ไล่ยืมคนอื่นเขา เราหาเอง ใช้เอง เพราะว่าตอนนั้นยังไม่ได้เลี้ยงหมา ก็แค่ตัวคนเดียว หาเลี้ยงดูแลตัวเองไป”