หายหน้าหายตาไปจากวงการนานเกือบ 20 ปี สำหรับอดีตดัง บดินดร์ ดุ๊ก ที่ในวันนี้เจ้ำตัวกลับมาเผยตัวอีกครั้งในวัย 56 ปี

ภายหลังที่อดีตนักแสดงหนุ่มโด่งดัง บดินทร์ ดุ๊ก ได้ออกมาเปิดใจว่าปัจจุบันนี้กำลังเจอปัญหาสุขภาพ ทำให้บริเวณใบหน้าขยับไม่ได้หนึงด้าน

ซึ่งหลังจากเรื่องราวของเขาได้เผยออกไปนั้น ก็มีกระแสข่าวต่างๆเป็นจำนวนมากว่าหวังเกาะกระแสเพื่อกลับมาดังหรือเปล่า ซึ่ง

บดินดร์ ดุ๊ก ก็ได้เปิดใจเล่าว่า “ก็คิดกันไปนะครับ ผมแต่งตัวดีๆไปโชว์ตัวตามงานอีเว้นไม่ดีกว่าหรอ คิดได้อย่างไร งานขาวดำครับผม

ไปส่งเพื่อน ไปส่งพี่ส่งน้อง แต่นี่กลายเป็นเกาะกระแส” แล้วจังหวะที่เปิดเผยเรื่องปัญหาด้านสุขภาพ ก็โดนกล่าวหาสร้างภาพอีกเหรอ

“มันเป็นจังหวะ เป็นอยู่มาทุกคืนก็ช่างเถิด กระทั่งมาคืนท้ายที่สุด ตอนไปยังไม่เป็นอะไรก็ยังรับแขกได้ปกติ แต่พอมาคืนสุดท้าย

ภายหลังที่สวดพระอภิธรรมอะไรเสร็จ ก็กลับมาบ้านที่พัก รวมทั้งนั่งคุยกันไปคุยกันมาก็มีความคิดว่าทำไมหน้าเรา ตึงๆเราก็รู้สึกว่าอาจจะไม่มีอะไร

ก็เลยนอน และจากนั้นก็เล่นโทรศัพท์มือถือน้ำ-ตามันก็ไหล ปากก็เริ่มเปลี่ยนไป แข็งๆเราก็แปลกๆเลยเดินไปดูกระจก มองเห็นแล้วตก ใจเลย

จะยิ้มอะไรมันก็สามารถทำเป็นปกติ มันเกิดขึ้นเร็วมาก สาเหตุเลยเป็นปลาย ประสาทคู่ที่ 7 มันเปลี่ยนไป สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยจำนวนมาก

แต่ว่าเราเคยเป็นมาแล้ว 2 ปี ซึ่งเป็นครั้งแรกมันหาย ต้องทำกายภาพทุกๆวัน ดังเช่นในตอนนี้จำเป็นต้องทำทุกวี่ทุกวัน” ถ้าเกิดถามคำถามว่ากระทบกับชีวิตประจำวันเยอะแยะไหม

บดินดร์ ดุ๊ก พูดว่าที่กระทบหนักๆเลยก็คือเรื่องเกี่ยวกับการกิน เวลาตักของกินเข้าปาก แล้วปากเราเปิดเพียงแค่ด้านเดียวมันก็หก

เวลาดื่มน้ำก็จะไหลออกทางข้างปาก ก็จะต้องบีบปากอีกข้างหนึ่งไว้ การพูดก็ยังพูดได้ และคือเรื่องของตา เพราะมันกระพริบไม่ได้ ซึ่งที่ไม่ปิดตา

ข้างซ้ายไปเลยเพราะใช้ชีวิตลำบาก จะมองไม่ค่อยเห็น หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าขอขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้

ส่วนพวกที่มาแสดงความคิดเห็นติติง ก็ไม่สนใจ เพราะก็ถือว่านั่นเป็นสิ่งที่สะท้อนตัวเขา แต่ก็ทำตนกระทบจิตใจบ้าง

ความรู้สึกถามว่ากังวลไหม ก็ไม่กังวลนะมันเป็นธรรมดาของชีวิต ไม่เคยกังวลเรื่องการจากไป เนื่องจากว่าเรารู้ดีว่าอย่างไรคนเรามันจำเป็นต้องไปอยู่ดี แต่ขอไปแบบสบายๆได้ไหม